วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Lab.2 การสร้างความสัมพันธ์,การคำนวณค่าสถิติ,การสร้างกราฟ,การสร้างรายงาน

การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตารางในฐานข้อมูล

1.ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One to One)

2.ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกล่ม (One to Many)

3.ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อหนึ่ง (Many to One)

4.ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม (Many to Many)

รูปแบบในการรวมตาราง 2 รูปแบบ

1. Join = เป็นการออกแบบสำหรับการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่าง One to One,Many to One  
              หากคำสั่ง Join ที่มีความสัมพันธ์แบบอื่นจะทำให้ตารางผิดพลาด

2. Relate = ชื่อฟิลด์ไม่จำเป็นต้องชื่อเดียยวกัน แต่ต้องเป็นฟิลด์ประเภทเดี่ยวกัน


ตัวอย่าง ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One to One)

ภาพที่ 1 เปิดPrachinburi>Soil_GRP


ภาพที่ 2 เปิดSoil_GRP (จะแสดงแต่ละชั้นดิน)


ภาพที่ 3 คลิกขวาที่ Soil_GRP > เลือก Open Attribute


ภาพที่ 4 จะแสดงข้อมูลใน Soil_GRP


ภาพที่ 5 เอาข้อมูล Soil_Code มาไว้ใน Table of Contents (จะบอกว่าชุดดินเป็นชุดที่เท่าไหร่)


ภาพที่ 6 คลิกที่ Table > Join and Relates > Join


ภาพที่ 7  จะแสดง Join data  กรอกข้อมูลตามลำดับ (ต้องเลือกข้อมูลให้เหมือนกัน)


ภาพที่ 8 คลิกที่ช่องข้อมูลจะขึ้น Highlights 


ภาพที่ 9 คลิกขวาที่ Soil_GRP > Data > Export Data (สำหรับ Save งานออก)


ภาพที่ 10 Table > Join and Relate > Remove Join(s) > Soil_Code (เป็นการลบข้อมูลออก)


ตัวอย่าง ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อหนึ่ง (Many to One)

ภาพที่ 11 เปิดข้อมูล Amphoe มาไว้ใน Table of Contents


ภาพที่ 12 คลิกขวาที่ข้อมูล Amphoe > Open Attribute Table (เพื่อดูข้อมุลอำเภอ)


ภาพที่ 13 เลือก Village_Ralate  มาไว้ใน Table of Contents > Open Attribute Table


ภาพที่ 14 จะแสดง Ralate  กรอกข้อมูลตามลำดับ (ต้องเลือกข้อมูลให้เหมือนกัน)


ภาพที่ 15 แสดงข้อมูลที่ได้จากการทำ Relate 


ภาพที่ 16 Table > Relate Tables > Relate1: Village_Ralate (เพื่อดูข้อมูลที่ทำการRelateไว้ ซึ่งจะซ้อนอยู่)


ภาพที่ 17 คลิกที่ตารางสุดท้าย จะโชว์ว่ามีข้อมูลเท่าไหร่จากทั้งหมดเท่าไหร่


ภาพที่ 18  Join and Relate > Remove Relate(s) > Relate 1 (เป็นการลบข้อมูลออก)




การคำนวณค่าสถิติ

ภาพที่ 1 คลิกขวาที่ข้อมูล Amphoe > คลิกขวาที่ ข้อมูล Area > Statistics


ภาพที่ 2 จะแสดงข้อมูล Area (ซึ่งข้อมูลที่แสดงจะต้องเป็นตัวเลข)




การสร้างกราฟ

ไปที่ View > Graphs > Create


จะปรากฎหน้าต่างดังภาพ Graph type เป็นประเภทของกราฟเราสามารถเราเลือกได้หลายแบบ
ในที่นี้เลือกแบบ Vertical Bar (กราฟแท่ง)


Value field เป็นช่องสำหรับใส่ฟิลด์ที่จะนำมาสร้างกราฟ เลือกอะไรก้ได้ ในที่นี้เลือก AREA
และก็ Next


จากตารางเราสามารถมาปรับได้อีกภายหลัง จากนั้นกด Finish




การแก้ไขกราฟ

หลังจากกด Finish จะปรากฎ Graph ขั้นมาให้คลิกขวา > Advanced Properties


จะปรากฎหน้าต่าง Editing ถ้าจะเปลี่ยนชื่อ คลิกที่ Titles > Style > Text เปลี่ยนชื่อตามต้องการ


ถ้าต้องการจะปรับสี ตัวอักษร ขนาดของชื่อเรื่อง ให้ไปที่ Titles > Text > Font


ถ้าต้องการจะปรับเงา สีของเงา ขนาดเงา ความเข้มของเงา ให้ไปที่ Titles > Text > Shadow


ถ้าต้องการปรับ Legend ให้ไปที่ Legend มีคำสั่งต่างๆมากมายให้เลือกปรับ แล้วแต่ชอบว่าจะปรับอะไร


แก้ไขแกน X,Y  เปลี่ยนชื่อ ปรับมุม ไปที่ Axis > Left Axis > Title > Style 


ถ้าจะเปลี่ยนขนาด สี ความหนา ของตัวอักษรของแนวแกนYด้านซ้าย ให้ไปที่  Axis > Left Axis > Title > Format > Text > Font (มีคำสั่งอีกมากมายที่ใช้ปรับ สามารถลองคลิกดูไปได้เรื่อยๆ)


ถ้าต้องการจะเปลี่ยนชื่อ องศา ให้ไปที่  Axis > Bottom Axis > Titles > Style 


ถ้าต้องการจะปรับขนาดตัวอักษร สี ความหนา เงาต่างๆ ให้ไปที่ Axis > Bottom Axis > Titles > Format > Text > Font/Shadow


ภาพตัวอย่างการปรับเปลี่ยนกราฟ


ถ้าต้องการเปลี่ยนรูปแบบแท่งกราฟคลิกที่ Vertical Bar > Format > Format > ตรงStyleเลือกรูปแบบตามต้องการ  ถ้าจะเปลี่ยนสีต้องติ๊กเครื่องหมายถูกออกก่อน ถึงจะเลือกสีได้


ทำให้กราฟเป็น 3D ดับเบิ้ลคลิกที่กราฟ > Appearance > ติ๊กถูกที่ช่อง Graph in 3D view


ภาพจะมีลักษณะตามนี้


การCopy คลิกขวาที่ตัวกราฟ > Export > Copy แล้วไปวางใน Microsoft office word เพื่อใช้งานต่อไป


การSave เป็น File > as JEPG > เลือก Qualiti เป็น100% > Save เลือกที่เก็บตามถนัด


การส่งทาง E-mail > Send




การสร้างรายงาน

คลิก View > Reports > Create Report 


จะขึ้นหน้าต่าง Report Wizard ให้เลือกข้อมูล จากนั้นกด Next > Next 


พอถึงหน้านี้ จะมีคำว่าField เอาไว้ให้เลือกข้อมูล ส่วนช่อง Sort มีให้เลือก2แบบ คือ Ascending(เรียงตัวเลขแบบ น้อยไปมาก) และ Descending (เรียงตัวเลขแบบมากไปน้อย) เลือกเสร็จกด Next


จากนั้นถ้าไม่ปรับอะไรก็กด Next > Next > Finish จะปรากฎหน้าต่าง Report Viewer


หากไม่พอใจสามารถแก้ไขได้ คลิก Edit


จะปรากฎหน้าต่าง Report Designer จากนั้นสามารถปรับตามความต้องการ


ปรับเสร็จกด Run Report (มุมบนซ้ายมือ) จะกลับไปเป็นหน้าเดิม (Report Viewer)


การSave ไปที่ Save report output to file (ที่เป็นรูปแผ่นดิสก์) > ตั้งชื่อ > เลือกที่เก็บ > Save 
นามสกุลของ Report จะเป็น .rdf


การ Copy กดCopy แล้วนำไปวางไว้ที่ต้องการ


VDO


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น